การศึกษาไทยล่มสลายเพราะพรรคการเมืองแก่งแย่ง ฉกฉวยงบฯ แสนล้านจากนโยบายขายฝัน และใช้บุคลากรของศธ.เป็นฐานเสียง นักการศึกษาอัดยังไม่ถึงเวลาปรับหลักสูตรทำเด็ก-พ่อแม่สับสน ชี้ของใหม่แค่จัดหมวดหมู่-เปลี่ยนชื่อ เชื่อครูไทยจะลำบากหนักเพราะมัวแต่อบรม อึ้ง! ผลทดสอบครูคณิต 60% สอบตกเสียเอง ด้านประธานบอร์ด สทศ.แนะประเมินผลหลักสูตรเก่า 6 เดือนรู้ต้องปรับเปลี่ยนจุดไหน
ที่ศศนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 18 ต.ค.56 นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ อดีตประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ สถาบันวิจัยและพัฒนาคุณภาพ (สวพ.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานว่า การที่ ศธ.รีบปรับเปลี่ยนหลักสูตรโดยไม่ได้ดูบริบททั้งหมดเลยว่า เขตพื้นที่การศึกษามีการบริหารจัดการที่มีปัญหาหรือไม่ การผลิตครูมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน แต่กลับไปเปลี่ยนหลักสูตรจาก 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เหลือ 6 กลุ่มความรู้นั้น จะทำให้เกิดความยุ่งยากสับสนวุ่นวาย เด็กและผู้ปกครองจะต้องตกใจและหวั่นเกรงไปต่างๆ นานาว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่ครูก็คงจะลำบากมากขึ้น เพราะหลักสูตรเดิมก็ยังสอนไม่ได้เลย
ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการทดสอบครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ ก็พบว่า ครู 60% ยังสอบตกในวิชาที่ตนเองเป็นผู้สอน ดังนั้นหากมีหลักสูตรใหม่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะเกิดมหกรรมการอบรมครูขึ้นอีกมาก จนทำให้ครูทิ้งห้องเรียนไปอบรม และทำให้ไม่มีเวลาสอนในห้องเรียนอย่างเต็มที่
"ผมมองว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับหลักสูตร และการระบุว่าการปรับหลักสูตรให้เหลือ 6 กลุ่มความรู้จะช่วยให้เด็กมีชั่วโมงเรียนลดน้อยลงนั้น เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะวิชายังอยู่เหมือนเดิมเพียงแค่มาจัดหมวดหมู่และเปลี่ยนชื่อใหม่เท่านั้น อีกทั้งกระบวนการคิดของคนปรับหลักสูตรก็ยังเป็นแบบวิทยาศาสตร์ ที่คิดถึงแต่การผลิตเมื่อผลผลิตออกมาไม่ดีก็คิดแต่จะเปลี่ยนปัจจัยนำเข้าหรือหลักสูตร ซึ่งระบบนี้จะนำมาใช้กับการศึกษาไม่ได้"
นายชัยณรงค์ กล่าวและว่า ผลการสอบโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือ PISA พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่าเด็กไทยมีคุณภาพการศึกษาที่ล้มเหลว โดยคะแนนของเด็กได้มาจากการท่องจำเพียงอย่างเดียว ทั้งที่ PISA มีคะแนนในหลายด้าน อาทิ การคิดวิเคราะห์
การสร้างสรรค์จินตนาการ และการนำไปใช้แก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน
นายชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในระบบโรงเรียนของประเทศ โดยคำนวณจากคะแนนนานาชาติ ได้แก่ PISA, TIMSS และ SISS แสดงให้เห็นการลดลงของคุณภาพการศึกษาเด็กไทยได้อย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้วเด็กไทยมีคะแนนอยู่ในระดับดี แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาคะแนนลดลงอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันอยู่ในระดับแย่ ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงใน ศธ.เนื่องจากมีพรรคการเมืองต่างแย่งเข้ามาเอางบ
ประมาณที่มีหลายแสนล้าน อีกทั้งก็ใช้บุคลากรของ ศธ. ที่มีจำนวนมากมาเป็นฐานเสียงให้กับพรรคของตน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการล่มสลายของระบบการศึกษาไทย
ด้านนายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า ก่อนจะมีการปรับหลักสูตรใหม่ ควรต้องประเมินข้อดีข้อเสียของหลักสูตรเก่าก่อน ซึ่งการประเมินก็ใช้เวลาไม่มากเพียง 6 เดือนก็ทราบผลแล้ว เพราะปัจจุบันมีข้อมูลต่างๆ มากมาย รวมถึงความคิดเห็นของนักวิชาการ ที่สามารถนำมาประมวลผลได้ ทั้งนี้เห็นด้วยกับการปรับหลักสูตรใหม่ที่จะทำให้เด็กใน
ช่วงชั้นที่ 1 ไม่ต้องเรียนครบ 8 กลุ่มสาระฯ และมาเน้นเรียนในวิชาที่เป็นพื้นฐานจริงๆ
ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ